อาการตอนทำแท้งเป็นยังไง? เสี่ยงตกเลือดหรือไม่?ปวดมากมั้ย?

หลังจากที่ใช้ยาไปแล้ว คนไข้จะมีอาการปวดท้องคลอดเหมือนการคลอดตามธรรมชาติ และทารกจะถูกขับออกมาซึ่งสามารถเห็นตัวทารกได้อย่างชัดเจน รวมทั้งถุงตั้งครรภ์ และ รกด้วย ในกรณีที่ทารกถูกขับออกมาแล้วแต่สายรกยังคาอยู่ที่ช่องคลอด สามารถทำการดึงสายรกออกมาได้เลย ไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าหากสายรกมีการขาดออกจากกันขณะที่ทำการดึงออกมา คนไข้สามารถนำส่วนที่เหลือที่ค้างอยู่ภายในมดลูกออกได้โดยการรอให้ฝ่อแล้วหลุดออกมาเอง หรือ ไปพบแพทย์เพื่อทำการขูดมดลูกได้

เรื่องการตกเลือดนั้นต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่าการตกเลือดคืออะไร เลือดออกเยอะแค่ไหนถึงเรียกว่าตกเลือด

อันดับแรกเลย การทำแท้งในอายุครรภ์ 4 เดือน 5 เดือน หรือ 6 เดือน เป็นปกติอยู่แล้วที่จะมีเลือดออกจำนวนมากเช่นเดียวกับการคลอดลูกตามปกติ แล้วมันต้องออกมาแค่ไหนถึงจะเรียกว่าตกเลือดกันล่ะ ในเกณฑ์ที่เราจะเรียกว่าการตกเลือดนั้นเลือดจะต้องออกประมาณ 1,000-2,000 มล. หรือ 1-2 ลิตร นั่นเอง แต่ในทางปฏิบัติถ้าเราทำแท้งเองที่บ้านคงไม่มีใครมานั่งตวงเลือดเนาะว่าเราเลือดออกถึง 1 ลิตรรึยัง เพราะฉะนั้นเรามีวิธีการสังเกตุการตกเลือดที่ง่ายว่านี้คือ

กรณีที่ตกเลือดทันทีหลังแท้ง คือ เมื่อทารกถูกขับออกมาแล้ว ยังคงรู้สึกปวดท้องรุนแรง ความดันต่ำ หายใจหอบถี่ หัวใจเต้นเร็ว เวียนหัว หน้ามืด ตาลาย คล้ายจะเป็นลม ให้คนไข้นอนพัก แล้วหาเครื่องดื่มหวานๆ หรือ เครื่องดื่มเกลือแร่ทานเพิ่มชดเชยการสูญเสียน้ำ หากยังไม่ดีขึ้นให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

  1. กรณีที่ตกเลือดหลังแท้ง คือ มีการแท้งไปแล้ว ขณะที่แท้งไม่มีอาการใดๆผิดปกติ แต่หลังแท้งไปแล้ว 1 วัน หรืออาจจะมากกว่านั้น อยู่ๆก็ปวดท้องรุนแรง มีเลือดออกจำนวนมาก ในกรณีนี้คนไข้ต้องประเมินตัวเองว่ามีอาการเหมือนกับการตกเลือดทันทีหลังแท้งหรือไม่ ถ้าใช่ และพักผ่อนแล้วยังไม่ดีขึ้น ให้ไปพบแพทย์ทันทีเช่นเดียวกัน

        ในส่วนของการปวดท้องนั้น การทำแท้งในอายุครรภ์ 4 เดือน 5 เดือน หรือ 6 เดือน ทารกในครรภ์มีขนาดค่อนข้างใหญ่การปวดท้องคลอดมีแน่นอนอยู่แล้วแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอทนได้ แต่หากคนไข้ทนไม่ไหวสามารถทานยาแก้ปวดที่สามารถทานได้

เพิ่มเพื่อน
ปรึกษาแอดไลน์ @cytotank

กินยาขับเลือดไม่ได้ผล อาจเกิดจากท้องนอกมดลูก

      โดยปกติแล้วคนเราเวลาตั้งครรภ์ก็จะตั้งครรภ์ในมดลูก แต่มีจำนวนไม่น้อยที่ไข่ที่ได้รับการผสมกับอสุจิแล้วไปฝังอยู่ที่ท่อนำไข่ บางคนไปฝังในรังไข่เลยก็มี หรือบางคนก็ในช่องท้อง แต่กรณีที่พบบ่อยที่สุดคือท้องในท่อนำไข่ การตั้งครรภ์นอกมดลูก เป็นการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ ส่วนมากเด็กโตไปได้ระยะหนึ่งก็มักจะเสียชีวิต 
          สาเหตุ ท้องนอกมดลูกมักพบบ่อยๆ ในคนที่มีประวัติเคยมีปีกมดลูกอักเสบ เคยทำแท้งบ่อยๆ การขูดมดลูกอาจจะมีการอักเสบติดเชื้อ ทำให้ท่อนำไข่หรือมดลูกไม่เรียบ ไข่เดินทางไปสู่มดลูกได้ช้า การฝังตัวเกิดได้ไม่ดี จึงเกิดฝังตัวนอกมดลูก
          การรักษา ส่วนมากต้องผ่าตัดเพื่อเอาการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติออก บางคนก็จำเป็นต้องตัดท่อนำไข่ทิ้ง หรือตัดรังไข่ทิ้ง แล้วแต่กรณี 
          การป้องกัน การป้องกันอันตรายจากภาวะนี้ได้ดีที่สุดก็คือ การฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด เพื่อหากพบภาวะนี้สามารถให้การรักษาได้ทันท่วงที ไม่เกิดอันตรายต่อคุณแม่ เพราะหากปล่อยไว้อาจเกิดท่อรังไข่ หรือรังไข่ฉีกขาดได้

ท้องนอกมดลูก สามารถใช้ยายุติการตั้งครรภ์ได้หรือไม่ แล้วทำไมใช้ยาขับเลือดแล้วถึงไม่ได้ผล?

สาเหตุที่การท้องนอกมดลูก ใช้ยาทำแท้งแล้วไม่ได้ผล เป็นเพราะ ยาทำแท้ง หรือยายุติการตั้งครรภ์สำหรับการตั้งครรภ์ปกติเท่านั้น ท้องนอกมดลูกไม่สามารถใช้ยาเพื่อยุติการตั้งครรภ์ได้ เพราะ ยาทำแท้ง หรือ ยายุติการตั้งครรภ์ สำหรับการตั้งครรภ์ปกตินั้นมีการทำงานกับฮอร์โมนและมดลูก แต่การท้องนอกมดลูกเป็นการตั้งครรภ์ที่ตัวอ่อนเกิดการฝังตัวที่บริเวณอื่นไม่ใช่มดลูก จึงไม่ได้รับผลและไม่สามารถใช้ยาทำแท้ง หรือ ยายุติการตั้งครรภ์แบบปกติได้นั่นเอง

แล้วท้องนอกมดลูกจะทำแท้งได้ด้วยวิธีไหน

วิธีการรักษาอาการท้องนอกมดลูกจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการที่พบ

  1. บริเวณที่เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกแตก (rupture)

– กรณีที่การตั้งครรภ์นอกมดลูกเกิดที่ท่อนำไข การรักษาด้วยการผ่าตัดเหมาะสมที่สุด การผ่าตัด คือการตัดท่อนำไข่ทิ้ง (salphingectomy) หรือในบางรายแพทย์อาจใช้วิธีเปิดเอาถุงการตั้งครรภ์ออกจากท่อนำไข่โดยไม่ตัด (salphingotomy/salphingostomy)

– ในบางตำแหน่ง เช่น ปากมดลลูก หรือ ตำแหน่งที่ไม่ใช่ท่อนำไข่ ก็จะมีวิธีการผ่าตัดแตกต่างกันออกไป

  1. บริเวณที่เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกยังไม่แตก (non-rupture)

มีการรักษาได้ 2 แบบ คือ

– ผ่าตัด เป็นการรักษาแบบเดียวกับรายที่แตก เป็นการรักษาหลัก

– ให้ยา Methotrexate (เมโธเทรกเซท) หรือ MTX

หากคุณไม่ใช่กรณีท้องนอกมดลูก ต้องการยาขับเลือด เรายินดีให้คำปรึกษา

เพิ่มเพื่อน

เหตุใดจึงยังมีผู้หญิงจำนวนมากที่ตัดสินใจทำแท้ง!!! 

สาเหตุหลักในการทำแท้งของผู้หญิงในสมัยก่อนนั้นมักจะเป็นสาเหตุมาจากการถูกข่มขืน แต่หากพูดถึงการข่มขืนหลายคนคงนึกภาพหญิงสาวถูกฉุดกระชากไปยังที่เปลี่ยวข้างทาง แต่จริงๆแล้วไม่ใช่แบบนั้น อ้างอิงจากพจนานุกรมฉบับบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 คำว่า “ข่มขืน” เป็นคำกริยา หมายถึง บังคับ, ขืนใจ, ขู่เข็ญ. ส่วนคำว่า “ข่มขืนกระทำชำเรา” เป็นคำนาม หมายถึง เป็นฐานความผิดอาญา ที่ผู้กระทำ ชำเราบุคคลอื่น ไม่ว่าผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำจะเป็นชายหรือหญิง และจะเป็นคู่สมรสของตนหรือไม่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้ถูกกระทำอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้ถูกกระทำเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยา หรือ คนอื่น หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้เต็มใจนับเป็นการข่มขืนทั้งสิ้น เช่นนั้นแล้ว เมื่อเพศสัมพันธ์ครั้งนั้นไม่ได้เกิดจากความเต็มใจ หรือ ความต้องการที่ตรงกันทั้งสองฝ่าย เมื่อมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ทารกในครรภ์ หรือ ลูกในท้อง ย่อมไม่เป็นที่ต้องการของคนเป็นพ่อและแม่เป็นที่แน่นอน นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่นำมาสู่การตัดสินใจทำแท้งในอดีต

แม้ในปัจจุบันการทำแท้งอาจจะยังมีสาเหตุมาจากการถูกข่มขืน จากสถิติที่เปิดเผยโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประเทศไทยมีสถิติความรุนแรงต่อผู้หญิงสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก พบผู้หญิงถูกละเมิดทางเพศ ถูกกระทำความรุนแรงทางร่างกายหรือจิตใจ ไม่น้อยกว่า 7 คน/วัน และมีสถิติผู้หญิงที่เข้ารับการบำบัดรักษา แจ้งความร้องทุกข์ประมาณปีละ 30,000 คน ขณะที่รายงานของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) พบกว่าร้อยละ 87 ของคดีการถูกล่วงละเมิดทางเพศไม่เคยถูกรายงาน และจากการสำรวจสถานการณ์ความรุนแรงต่อผู้หญิง และบุคคลในครอบครัวของไทยระดับประเทศ พบความรุนแรงต่อผู้หญิงและบุคคลในครอบครัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 34.6 ในปี 2560 เป็นร้อยละ 42.2 ในปี 2563 โดยความรุนแรงทางเพศคิดเป็นร้อยละ 4.5

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยในด้านสภาพเศรฐกิจ สังคม และอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ผู้คนเริ่มให้ความสนใจในเรื่องของความพร้อมด้านการเลี้ยงดู ค่าใช้จ่าย และคุณภาพชีวิตทั้งด้านการศึกษา และการเจริญเติบโตของลูก สภาพแวดล้อมของสังคมและครอบครัวที่ดี เช่นในครอบครัวที่แต่งงานแล้วแม้ว่าการตั้งครรภ์ มีบุตร จะไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย หรือบางครอบครัวมีบุตรอยู่แล้ว แต่ด้วยสภาพเศรฐกิจที่ถดถอย รายได้อาจจะลดลง บางครอบครัวตกงาน ประกอบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ลำพังแค่ประคองกันเองยังลำบาก หากมีลูกเพิ่มมา 1 คนอีกคงไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน จึงเป็นเหตุที่ทำให้ครอบครัวที่เหมือนจะพร้อมก็ยังคงเลือกที่จะทำแท้ง

อีกปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องของอายุ เนื่องจากสภาพสังคมในปัจจุบันผู้หญิงมีความเท่าเทียมกับผู้ชายมากขึ้นทั้งทางด้านการศึกษา หน้าที่การงาน  ความรับผิดชอบ และความสามารถในการเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว  เพราะฉะนั้นแล้วในอายุแต่ละช่วงวัย ก็มักจะมีสาเหตุในการตัดสินใจทำแท้งที่แตกต่างกันไปตามบทบาท หรือภาระหน้าที่ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม อย่างเช่น ในวัยรุ่นที่ยังเรียนอยู่แน่นอนน้องๆทุกคนเข้าใจว่าการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ แต่เนื่องจากฮอร์โมนในวัยนี้กำลังเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นการอยากรู้ อยากลองเรื่องเพศ การมีแฟน การมีเพศสัมพันธ์ เป็นเรื่องปกติธรรมชาติตามวัยของเขา แต่ด้วยวัฒนธรรมความเชื่อของสังคมที่มองว่าการกระทำ การสั่งสอน หรือการพูดคุยเรื่องเพศเป็นเรื่องน่าอาย ทำให้ผู้หญิงและผู้ชายในวัยนี้ขาดความรู้ในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์อย่างระมัดระวัง และปลอดภัยไม่ว่าจะด้วยการป้องกันการท้องไม่พร้อม หรือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เมื่อเกิดความพลาดท้องขึ้นมา ก็มีความจำเป็นที่จะต้องทำแท้ง เพื่อรักษาอนาคตทางการศึกษาของตัวเองไว้ เพราะถ้าไม่ทำแท้ง ก็ไม่สามารถอุ้มท้องไปเรียนได้ แม้ว่าโรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัยจะไม่ได้กฎข้อใดห้ามนักเรียน หรือ นักศึกษาที่ตั้งครรภ์ไม่ให้ไปเรียน แต่ด้วยสภาพค่านิยมของสังคม หากอุ้มท้องไปเรียนก็จะตกเป็นที่นินทาจากคนรอบข้าง ทำให้เกิดความอับอาย ไม่มั่นใจและไม่สามารถเรียนได้อย่างมีความสุข การทำแท้งจึงเป็นทางออกเดียวที่จะทำให้สามารถรักษาอนาคตทางด้านการศึกษาของตนเองไว้ได้

ในวัยถัดมานั่นก็คือวัยทำงาน วัยนี้ดูเหมือนจะมีความพร้อมในการเลี้ยงดู แต่จริงๆแล้วหลายคนไม่เป็นเช่นนั้นเลย ผู้หญิงบางคนขัดสนในเรื่องของสภาพคล่องทางการเงิน บางคนยังไม่มีงานทำ หรือบางคนมีรายได้น้อย บางคนมีภาระค่าใช้จ่ายเยอะ ลำพังเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว หรือรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆที่มีในปัจจุบันก็หนักแล้ว การมีเด็กอีก 1 คนเข้ามาในชีวิตให้ต้องรับผิดชอบเพิ่มขึ้นคงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ หรือผู้หญิงบางคนอาจจะไม่ได้ขัดสนใจเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน แต่ไม่มีความพร้อมในการเลี้ยงบุตร เช่น ยังไม่ได้ตั้งใจจะสร้างครอบครัว หรือบางอาชีพไม่ควรตั้งครรภ์เพราะการตั้งครรภ์ส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานเป็นอย่างมาก หรือแม้สาเหตุที่น่าลำบากใจที่สุดคือ ผู้หญิงบางคนกำลังเป็นโลกอีกใบของผู้ชายบางคน การทำแท้งคงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

วัยสุดท้ายคือวัยกลางคนหรือวัยใกล้หมดประจำเดือน ผู้หญิงวัยนี้ก็ยังสามารถตั้งครรภ์ได้ ไม่ใช่ว่าเห็นตัวเองอายุเยอะแล้วจะไม่ท้อง ตราบใดที่ประจำเดือนยังไม่หมด ก็สามารถท้องได้ตลอด แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น ความสมบูรณ์ของร่างกายก็น้อยลง ผู้หญิงในวัยนี้มักตัดสินใจทำแท้งด้วยเหตุผลที่ว่า อายุเยอะแล้ว บางคนมีลูกมาแล้ว บางคนมีลูกหลายคนแล้วด้วย และลูกๆก็โตกันหมดแล้ว ถ้าจะต้องมานั่งเลี้ยงลูกเล็กตอนอายุเยอะคงไม่สะดวก ไหนจะเรื่องค่าใช้จ่าย ผู้หญิงหลายคนวัยนี้ก็ใกล้เกษียญแล้วเลี้ยวหลานอาจจะเหมาะกว่า และด้วยวัยที่มากขึ้นมีโอกาสสูงมากที่เด็กจะเกิดมาไม่สมบูรณ์ทั้งทางด้านร่างกายและสติปัญญา ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลหลักที่ผู้หญิงวัยนี้เลือกที่จะทำแท้งเช่นเดียวกัน

        จากข้อความข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจทำแท้งมักมีเหตุผลส่วนตัวที่สำคัญทั้งนั้นไม่ว่าจะเพื่อตัวเอง หรือ เพื่อลูกในท้องก็ตาม พออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงตั้งคำถามว่าทำไมไม่ป้องกันแต่แรก เชื่อหรือไม่!!! ว่ามีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ป้องกันแล้วแต่ก็ยังพลาดได้

หากคุณคือหนึ่งในผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม สามารถปรึกษาและหาทางออกรวมกันได้ พูดคุยกับเราได้ที่

เพิ่มเพื่อน
error: Content is protected !!